โรคมะเร็งเป็นโรคยอดฮิตของคนทั่วโลกและมีสถิติการเสียชีวิตเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทยมีจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นทุกปีทั้งเพศหญิงและเพศชาย ซึ่งเป็นโรคที่เกิดขึ้นได้กับอวัยวะในร่างกายเกือบทุกอวัยวะ เป็นโรคที่รักษาได้แต่เสียค่าใช้จ่ายค่อนข้างมาก และจะรักษาได้หายขาดถ้าทราบเร็วว่าป่วยเป็นมะเร็งในระยะต้นๆ
สาเหตุของมะเร็ง
ร่างกายมนุษย์ประกอบไปด้วยเซลล์ในร่างกายประมาณ 100 ล้านล้านล้านเซลล์ การที่เซลล์ในร่างกายของเราได้รับสารก่อมะเร็ง สารพิษหรือสารอนุมูลอิสระเข้าสู่ร่างกายเป็นประจำจนกระทั่ง DNA ของเซลล์ในร่างกายถูกทำลาย (เปลี่ยนรหัส DNA) ทำให้เซลล์เกิดความเสื่อมและผิดปกติจากเซลล์ปกติกลายเป็นเซลล์มะเร็งแบ่งตัวและลุกลามจากอวัยวะหนึ่งไปสู่อวัยวะหนึ่งได้ หากไม่ได้รับการรักษาตั้งแต่มะเร็งระยะแรกๆ ซึ่งเส้นทางการได้รับสารพิษก็จะได้จากเส้นทางดังต่อไปนี้
รูปร่างของ DNA
1. อากาศ การได้รับมลพิษทางอากาศ เช่น
- จากท่อไอเสีย
- จากโรงงานอุตสาหกรรม
- จากการเผาไหม้ต่างๆ
- กลิ่นสี กลิ่นทินเนอร์
- การสูบบุหรี่
2. อาหารการกินและน้ำดื่ม กว่า 80% ของสารพิษที่ได้รับเข้าสู่ร่างกายจะมาจากอาหารและน้ำดื่มมากที่สุด เช่น
- อาหารทะเลแช่สารเคมี น้ำยาดองศพหรือฟอร์มาลีน
- ผักผลไม้ที่ฉีดยาฆ่าแมลง
- อาหารปนเปื้อนบอแรกซ์ ที่ทำให้เด้งหรือกรอบ
- น้ำผลไม้ปรุงแต่งจากสีและสารเคมี
- การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
3. ความเครียดและอารมณ์เชิงลบ อารมณ์เชิงลบส่งผลกับการก่อสารอนุมูลอิสระในร่างกายโดยตรง ถ้าเรามีอารมณ์เหล่านี้เมื่อไหร่ ร่างกายจะสร้างฮอร์โมนชนิดหนึ่งขึ้นมาจากต่อมหมวกไตซึ่งเป็นฮอร์โมนความเครียดหรือคอติซอล ที่ทางการแพทย์ยอมรับแล้วว่าเป็นฮอร์โมนที่ก่อให้เกิดสารก่อมะเร็งในร่างกาย ซึ่งอารมณ์เหล่านี้ได้แก่
- อารมณ์โกรธ
- อารมณ์เกลียด
- อารมณ์อิจฉา
- อารมณ์เศร้า
- อารมณ์กลัว
อนุมูลอิสระ คืออะไร ?
อนุมูลอิสระ หมายถึง สารซึ่งมีอิเล็กตรอนซึ่งไม่มีคู่อยู่ในวงรอบของอะตอม หรือโมเลกุล เราให้ความสำคัญกับสารซึ่งมีออกซิเจนเป็น ศูนย์กลาง คือ hydroxyl radical, superoxide, peroxyl, alkoxyl และ oxides ของ nitrogen โดยปกติสารเหล่านี้เกิดขึ้นโดยปฏิกิริยาในร่างกายอยู่แล้ว โดยเฉพาะเวลามีธาตุเหล็ก ทองแดง แมงกานีส โคบอลต์ โครเมียม นิเกิล อยู่เป็นจำนวนน้อยๆ มักเกิดเป็นปฏิกิริยาลูกโซ่และร่างกายก็จะมีระบบของแอนติออกซิแด้นท์ขจัด ออกไป แต่ถ้าร่างกายได้รับสารอนุมูลอิสระจากภายนอกมากเกินไป ตัวอย่างเช่น ได้รับจากอาหารบางชนิด จากขบวนการประกอบอาหาร เช่น การย่างเนื้อสัตว์ที่มีส่วนประกอบของไขมันสูง การนำน้ำมันที่ใช้ทอดอาหารที่อุณหภูมิสูงๆ มาใช้อีก หรือจากสิ่งแวดล้อม เช่น แสงอาทิตย์ซึ่งมีรังสี ultraviolet การแผ่รังสี (radiation) รังสี x-ray หรือจากมลพิษ เช่น ควันบุหรี่ ก๊าซจากท่อไอเสียรถยนต์ ถ้าสารเหล่านี้มีมากกว่าความสามารถของแอนตี้ออกซิแด้นท์ในร่างกายจะขจัดหมด หรือในภาวะที่จำนวนแอนติออกซิแด้นท์ในร่างกายลดลง เช่น ผู้สูงอายุ ก็จะทำให้มีสารอนุมูลอิสระและสารที่ไม่ใช่อนุมูลอิสระเช่น ไฮโดเจนเพอออกไซด์ ซึ่งมีออกซิเจนเป็นศูนย์กลางเช่นกัน โดยรวมเรียกว่า reactive oxygen species (ROS) มากเกินไปก่อให้เกิดอันตรายได้
อนุมูลอิสระที่มากเกินไปจะเป็นอันตรายต่อไขมัน (โดยเฉพาะ low density lipoprotein) โปรตีน หน่วยสารพันธุกรรม DNA และคาร์โบไฮเดรต ซึ่งจะไม่กล่าวถึงรายละเอียดในที่นี้ ทำให้เพิ่มอัตราการเสี่ยงต่อการเป็นโรคหลายชนิด โรคที่สำคัญและมีการศึกษากันมาก ได้แก่ โรคหลอดเลือดตีบและแข็งตัว โรคมะเร็งบางชนิด Alzheimer’s disease หรือโรคความจำเสื่อม โรคไขข้ออักเสบ โรคความแก่ เป็นต้น
สารอนุมูลอิสระกับเม็ดเลือดแดง
เม็ดเลือดแดงมีรูปร่างคล้ายโดนัท คือ มีลักษณะแบบกลมแบนเหมือนและตรงกลางบุ๋มลงไปแต่ไม่มีรู หากเราจะทำความเข้าใจเรื่องสารอนุมูลอิสระกับเม็ดเลือดแดง แสดงด้วยภาพจะเห็นได้ชัดกว่าครับ
โดยปกติแล้วเม็ดเลือดแดงจะเป็นตัวนำออกซิเจนเข้าสู่เซลล์ครับ จากภาพด้านบนเป็นภาพของเม็ดเลือดแดง ซ้ายมือเป็นเม็ดเลือดแดงปกติ ขวามือเป็นเม็ดเลือดแดงที่ถูกสารอนุมูลอิสระทำลาย (ดูจากภาพเหมือนซากเม็ดเลือดแตกเต็มไปหมด) ถ้าเม็ดเลือดแดงของเราถูกสารอนุมูลอิสระทำลายมากๆเข้า ออกซิเจนที่จะถูกนำเข้าสู่เซลล์ในร่างกายจะน้อยลงเรื่อยๆส่งผลให้เซลล์อ่อนแอลง ซึ่งหมายถึง ภูมิคุ้มกันของร่างกายที่ต่ำลงและโอกาสที่จะเจ็บป่วยด้วยโรคมะเร็งและโรคต่างๆมากขึ้นด้วย
มะเร็งชนิดต่างๆ
เนื่องจากมะเร็งเกิดได้กับอวัยวะเกือบทุกส่วนของร่างกาย ทางเราจึงได้รวบรวมข้อมูลและรายละเอียดที่น่าสนใจของมะเร็งแต่ละชนิดมาไว้ให้แต่ละท่านได้ศึกษากัน อันไหนที่หาข้อมูลได้ก็จะทยอยทำลิ้งค์ให้จนครบนะครับ
- มะเร็งปากมดลูก
- มะเร็งเต้านม
- มะเร็งตับ
- มะเร็งปอด
- มะเร็งช่องปาก
- มะเร็งโพรงหลังจมูก
- มะเร็งกล่องเสียง
- มะเร็งต่อมธัยรอยด์
- มะเร็งถุงน้ำดี และท่อน้ำดี
- มะเร็งตับอ่อน
- มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก
- มะเร็งรังไข่
- มะเร็งมดลูก
- มะเร็งกระดูก
- มะเร็งผิวหนัง
- มะเร็งต่อมลูกหมาก
- มะเร็งเม็ดเลือดขาว
- มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
- มะเร็งและเนื้องอกในระบบประสาท
- มะเร็งระบบทางเดินอาหาร ปัสสาวะ และอวัยวะสืบพันธุ์ชาย
ยาหมอเส็งกับมะเร็ง
เป็นคำถามที่ทุกคนต้องการคำตอบมากที่สุดครับว่า “ผู้ป่วยมะเร็งควรจะทานยาหมอเส็งตัวไหนดี ?” ยาหมอเส็งหลักที่เหมาะกับผู้ป่วยมะเร็ง คือ ยาบำรุงร่างกายหมอเส็งและขมิ้นชันหมอเส็งชนิดแคปซูล
- ยาบำรุงร่างกายหมอเส็ง จะช่วยปรับสมดุลของร่างกายหรือในทางการแพทย์แผนไทยจะบอกว่าช่วยปรับความสมดุลของธาตุในร่างกาย หากร่างกายมีธาตุที่สมดุลแล้ว ร่างกายจะแข็งแรงมีภูมิคุ้มกันที่ดี ไม่เจ็บป่วยหรือติดเชื้อง่าย
- ขมิ้นชันหมอเส็งชนิดแคปซูล สรรพคุณหรือคุณสมบัติที่สำคัญที่ช่วยผู้ป่วยมะเร็งได้ดี คือ การต้านสารอนุมูลอิสระและช่วยล้างสารพิษในร่างกาย
เมื่อทานยาหมอเส็งทั้งสองชนิดคู่กันแล้ว ผลที่จะได้คือ ร่างกายที่มีภูมิคุ้มกันที่ดีไม่มีสารพิษตกค้าง ถ้าร่างกายของเรามีภูมิคุ้มกันที่ดีแล้ว หากคุณเป็นคนที่แข็งแรงไม่เจ็บป่วยอยู่แล้ว ร่างกายจะแข็งแรงมากขึ้น อย่างไรก็ตามผลที่ได้ขึ้นอยู่กับระยะของโรคมะเร็งด้วย ยิ่งถ้าคนไข้ได้รับยาเร็วในช่วงของการเป็นมะเร็งในระยะแรกๆก็จะเป็นผลดีมากๆครับ
