ขอเล่านิดนึงครับ อาจจะไม่ได้มากมายหรือว่าเป็นบทความที่ยาวนัก ผมจะพูดถึงเรื่องของปัจจัยในการทานยาหมอเส็งให้ได้ผลครับ เนื่องจากประสบการณ์ในการแนะนำยาให้คนไข้ หรือจะเป็นคนที่อยากทานเพื่อสุขภาพก็ดี ผมพบว่า คนทีทานยาหมอเส็งมักจะมีความคาดหวังผลในการทานยาไว้สูงมาก และอยากจะให้เห็นความเปลี่ยนแปลงโดยเร็ว
แต่ท่านทราบไหมครับว่า หลายๆที่ต้องการผลที่ดีจากการทานยา กลับขาดความเข้าใจในกลไกการทำงานของยา และมักจะเลิกทานยาไปอย่างน่าเสียดาย โดยที่ไม่ทราบด้วยซ้ำว่า ตนเองได้ทิ้งโอกาสของการเป็นผู้มีร่างกายที่แข็งแรงไปแล้ว
ผมก็เลย อยากจะอธิบายเพิ่มเติมนิดนึงให้คนที่กำลังตัดสินใจจะทานยาหมอเส็งอยู่ก็ดี หรือทานยาอยู่แล้วก็ดี ถึงวิธีการทานยาหมอเส็งให้ได้ผลดีเหมือนที่ท่านอยากจะให้เป็น ด้วยหลักการง่ายๆจากประสบการณ์ในการแนะนำยาหมอเส็งของผมเอง เพียง 4 ข้อเท่านั้นครับ
ทานยาหมอเส็งให้ต่อเนื่อง
อันนี้ผมว่า เป็นปัญหาของคนทานยาหลายท่าน เนื่องจากมักจะเข้าใจว่าการทานยาหมอเส็งจะได้ผลเร็วดังใจ เหมือนการทานยาแผนปัจจุบันที่ออกฤทธิ์ได้เร็วและแรง แต่แฝงไว้ด้วยผลข้างเคียงมากมายที่เราไม่ทราบ และมักจะหยุดทานยาไปเนื่องจากว่า ทานยาไปก็ไม่เห็นผล เลิกทานดีกว่า
ผมขอชี้แจงว่า จากประสบการณ์ในการแนะนำยาก็ดี การพาคนไข้ไปพบหมอเส็งก็ดี แต่ละท่านแต่ละปัญหาใช้เวลาในการทานยาหมอเส็งไม่เท่ากัน บางคนแค่ขวดแรกที่ทานดีขึ้นก็มี บางคนต้องทานกันเป็นเดือนก็มี หรือถ้าจะนานหน่อยก็อาจจะเป็น 3 เดือน และนานสุดๆที่เคยเห็นคุณหมอเส็งแนะนำคนไข้ก็ คือ 6 เดือน
นั่นหมายความว่า เราควรจะทานยาให้ได้ตามระยะเวลาที่กำหนด เพื่อให้ยาสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าท่านทานยาแล้วไม่ได้ผลอย่างที่คาดไว้ ก็อาจจะต้องขอให้ท่านสำรวจตัวเองก่อนว่า เราทานยาอย่างตั้งใจไหม ครบตามปริมาณที่คุณหมอเส็งหรือตัวแทนจำหน่ายแนะนำหรือไม่ ? และทานแบบต่อเนื่องตามระยะเวลาที่คุณหมอเส็งแนะนำหรือเปล่า ? ถ้าได้คำตอบว่าไม่ ผมแนะนำให้เริ่มทานยาให้ครบโดส และครบตามจำนวนวันที่เราได้รับการแนะนำมา แล้วท่านจะเห็นความเปลี่ยนแปลงด้วยตัวของท่านเอง
ทานยาหมอเส็งให้ถูกสูตร
อันนี้ก็เป็นเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่งครับ ที่ผมพบว่าการแนะนำยาหมอเส็งของตัวแทนจำหน่ายแต่ละคนไม่เหมือนกัน และแนะนำกันไปตามแต่ประสบการณ์ของแต่ละคน ซึ่งก็ไม่ได้เป็นอันตรายหรือว่าเป็นเรื่องไม่ดีอะไรหรอกนะครับ ถ้าคนไข้ที่ได้รับการแนะนำไปไม่ได้ป่วยเป็นโรคร้ายแรงอะไรมากมาย
จริงๆแล้วตัวแทนจำหน่ายทุกคนที่อาจารย์คนเดียวกัน คือ หมอเส็งครับ เพราะฉะนั้นการแนะนำยาให้ทานอาจจะไม่ได้แตกต่างกันมากนัก ผู้แนะนำมีประสบการณ์ในการแนะนำมาก เห็นคนป่วยมามากเค้าก็น่าจะแนะนำได้ดีกว่า แต่ถ้ายังไง ผมว่าถ้ามาแมะกับหมอเส็งได้น่าจะดีทีสุดครับ
ที่ผมเป็นห่วงอีกอย่างคือ การสอบถามประวัติคนไข้ก่อนการใช้ยาหมอเส็งครับ อันนี้ผมอยากแชร์ให้ทุกท่านที่เป็นสมาชิกหมอเส็งก็ดี หรือคนที่กำลังจะทานยาอยู่ก็ดีว่า เราควรจะสอบถามประวัติของผู้จะทานยาก่อนแนะนำเสมอครับ เพราะว่าแต่ละคนแต่ละท่านไม่เหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่น บางคนอาจจะเป็นคนที่มีอาการแพ้สมุนไพรอย่างหนึ่ง เราก็ไม่สามารถแนะนำยาสมุนไพรชนิดให้เค้าทานได้ หรือบางท่านมีปัญหาโรคตับหรือโรคไต เราก็ไม่สามารถแนะนำให้ทานว่านชักมดลูกได้ใช่ไหมครับ
เพราะฉะนั้น ตัวแทนจำหน่ายทั้งหลายครับ ก่อนแนะนำยาให้ผู้อื่นกรุณาสอบประวัติเค้าหน่อยนะครับ ส่วนท่านที่กำลังจะซื้อยาหมอเส็งมาทาน ก็ช่วยบอกข้อมูลการแพ้ยาหรือข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับสุขภาพของท่านเองให้ผู้แนะนำทราบด้วยนะครับ เพราะสูตรที่เหมาะกับแต่ละคนไม่เหมือนกันครับ
ทานยาหมอเส็งเมื่อไรให้ทานน้ำเยอะๆ
อันนี้ใครเคยทานยาหมอเส็งมาก่อนจะทราบดีครับ ผมไม่ขออธิบายให้ยืดยาว เอาเป็นว่าทานน้ำหลังทานยาให้ได้อย่างน้อย 1 แก้ว หรือถ้าได้ 2 แก้วจะดีมากๆ
ทานยาหมอเส็งด้วยความศรัทธา
รู้ไหมครับว่า กว่า 90% ของอาการเจ็บป่วยของมนุษย์เราเกิดจากใจเป็นต้นเหตุครับ เพราะมนุษย์เราไม่สามารถแยกกายกับใจออกจากกันได้อย่างเด็ดขาด ผมยกตัวอย่างง่าย เคยได้ยินไหมครับเสียใจจนป่วยตาย ซึ่งผมเชื่อว่า หลายๆท่านคงทราบในประเด็นที่ผมกำลังพยายามบอกอยู่
ดังนั้น ถ้าจะทานยาหมอเส็งให้ได้ผลดี นอกจากท่านจะต้องทานยาให้ต่อเนื่องและครบตามที่ได้รับคำแนะนำมาแล้ว ท่านยังต้องมีความเชื่อและศรัทธาด้วยว่า ยาที่ท่านทานอยู่จะช่วยให้ท่านดีขึ้นได้จริง เพราะถ้าหากท่านไม่เชื่อในยาหมอเส็งแล้ว ท่านจะซื้อยามาทานทำไม จริงไหมครับ ?
ที่ผมบอกให้ท่านเชื่อ เพื่อให้ท่านเป็นกำลังให้ตัวของท่านเองครับ เพราะว่า หากใจเรามีความศรัทธาในตัวยาแล้วด้วยละก็ จะช่วยให้เราดีขึ้นเร็วกว่าที่เราคาดอีกนะครับ
“กำลังใจดี + ยาดี = ร่างกายแข็งแรง”
ขอให้ทุกคนไม่ป่วยไม่เจ็บไม่ไข้ครับ มีคำถามอะไรสอบถามเข้ามาได้เลยนะครับ ^^